นานแล้วนะ! ผู้อ่านที่รักของนิตยสาร Crown เสี่ยวฉางจื่อมาแล้ว! ฉันได้รับความโชคดีแทนทุกคน เสี่ยวฉางจื่อรับหน้าที่เป็นนักข่าวพิเศษ อ้า! เสมือนฉันได้นั่งผ่านยาน Time machine เลย จากยุคราชวงศ์ชิงของ "หวนจูเก๋อเก๋อ" มาถึงยุค'30 ในจีนของ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" เมฆหมอกที่ปกคลุม ก่อประสานเป็นเรื่องราว ที่น่ารื่นรมย์ ยานที่ฉันนั่งไป ช่างให้ความตื่นเต้นเสียนี่กระไร ฮ่าฮ่า! ฉันหัวโบราณเสียจริงๆ

#ดุจสวรรค์ในโรงแรมเลิศหรู
    เมื่อเครื่องบินร่อนลง ที่สนามบินหงเฉียวเซี่ยงไฮ้ ก็เป็นเวลาพระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว ฉันถูกจัดให้เข้าพัก ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวผู่ซี มันเป็นโรงแรม 4 ดาวระดับอินเตอร์ การรับรองดีมาก ว่า! ไม่นึกว่าทีมงานจะได้พักดีขึ้นทุกปีๆ ยังจำได้ว่าตอนที่ถ่าย "หวนจูเก๋อเก๋อ ภาค 2" พวกเรายังพักกันที่โรงแรม 3 ดาวเท่านั้น ตอนนั้น ทีมงานต่างคิดว่าโชคดีแล้ว คราวนี้ยังดีกว่าอีก ฮ่า ฮ่า… มิน่าเด็กๆถึงพูดกันว่า เหมือนกับอยู่บนสรรค์ แน่นอน คราวนี้เราเหมา 3 ชั้น เอาไว้เป็นแค้มป์สำหรับการถ่ายทำ 5 เดือนกว่าๆ (โรงแรมที่ว่านี้ชื่อว่า เจี้ยนกั๋ว อยู่ทางใต้ของเมือง ตอนนี้เปิดเผยได้เพราะว่าถ่ายเสร็จแล้ว)

#นอกหน้าต่างเป็น "โบสถ์ฉวีเจียฮุ่ย" ที่มีชื่อเสียง
    นับเป็นเวลาปีกว่าแล้ว จากตอนที่ "องค์หญิงท่องไต้หวัน" ที่ได้พบกับเจ้าเวย ซินหยู โหย่วเผิง และคนอื่นๆ ครั้งสุดท้าย พูดจากใจจริง ช่วงเวลานี้ ฉันก็เหมือนผู้อ่านทั้งหลาย ที่คิดถึงเหล่า "องค์หญิง" "องค์ชาย" ใจจะขาด คราวนี้ได้มีโอกาสอีกครั้ง ฉันพูดกลับตัวเองว่า จะต้องกลับมาถักทอความสัมพันธ์เก่าๆ หลังจากวางกระเป๋าหนักๆลง ฉันรีบเปิดหน้าต่างดูอย่างตื่นเต้น อยากจะเห็นเซี่ยงไฮ้ ที่เขาเรียกกันว่า "ปารีสตะวันออก" ให้เต็มตา คุณรู้ไหม? นอกหน้าต่างของฉัน สามารถเห็นโบสถ์ฉวีเจียฮุ่ยที่โด่งดัง แม้ว่ามันจะถูกสร้างในปี 1910 แต่โบสถ์สไตล์โบราณแห่งนี้ ไม่ได้ทิ้งความโอ่อ่าตระการตาไปเลย มันยังคงเป็นโบสถ์อันดับ 1 ในจีน และเป็น "ที่สุดของตะวันออก"

#เจอกับกู่จวี้จีครั้งแรก
    หลังจากดูโบสถ์อยู่พักนึง ฉันก็ตัดสินใจเดินรอบๆโรงแรม ทำความคุ้นเคย จริงๆแล้งในใจ ก็คิดไว้ว่า เผื่อจะโชคดีเจอกับนักแสดงไม่คนใดก็คนหนึ่ง ยิ่งครั้งนี้ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ฉงเหยาใช้นักแสดงหน้าใหม่หลายคน เผื่อจะได้ดูความสามารถของพวกเขา อ้าย! เดินไปเกือบครึ่งวัน คนซักคนก็ไม่เห็น… ตอนที่ฉันกำลังผิดหวังอยู่นั้น ก็มีเงาของคนรูปร่างสูงแวบเข้ามาในตา ว่า! เป็นหนุ่มหล่อในชุดยีนส์ เขาเดินเข้ามาใกล้… เสี่ยวฉางจื่อคิดในใจว่า "หนุ่มคนนี้หล่อจัง ถ้าเขาเป็นนักแสดง จะต้องเป็นพระเอกแน่!" เอ๋? ยิ่งหนุ่มหล่อคนนี้เดินเข้ามาใกล้ ฉันก็รู้สึกว่าคุ้นๆ Oh! My God! ที่แท้เป็น [เหอซูหวน] ใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" กู่จวี้จีนั่นเอง ไม่นึกว่าการพบกู่จวี้จีครั้งแรก จะเป็นการพบที่ระเบียงของโรงแรม รอยยิ้มก็ดูจริงใจ และกิริยาที่น่าดู ขจัดความงุ่นง่านของฉันไปทันควัน

#เคล็ดลับลดน้ำหนักของเจ้าเวย
    วันต่อมา ฉันก็ได้เจอ ซินหยู เจ้าเวย โหย่วเผิง ปีนึงที่ไม่ได้เจอซินหยู ดูเธอโตขึ้น มีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น แต่ก่อน ซินหยูดูสูงศักดิ์ ในชุดองค์หญิงราชวงศ์ชิง ตอนนี้ เธอมาในชุดนักเรียนย้อยยุค ก่อนสงครามกับกี่เพ้า ชุดเสื้อผ้าที่เรียบง่าย กลับไม่ได้ซ่อนความสวยของซินหยู ยิ่ง 1 ปีที่ผ่านมา ซินหยูออกงานที่ฮ่องกงมาก ทำให้ภาษากวางตุ้งของเธอคล่องปรื๋อ! เจ้าเวยเทียบกับปีที่แล้วอ้วนขึ้นหน่อยนึง แต่เพื่อบทยีผิง สาวสามัญผู้เข้มแข็ง ชีวิตลำบากยากแค้น เจ้าเวยขยันขันแข็งวางแผนไดเอท คนพิเศษ ย่อมมีวิธีพิเศษ เจ้าเวยไม่งกที่จะบอก เคล็ดลับไดเอทของตนเอง กับเสี่ยวฉางจื่อ - 'วิธีท่อง' หา! ที่แท้ก็เป็นการเร่งรัดตัวเอง พูดอีกอย่างก็คือ เอาแต่เตือนตัวเองว่า ต้องผอม ต้องผอม! ผลก็คือผอมลงจริงๆ ฮ่าฮ่า! เจ้าเวยบอกอย่างเงี้ย ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวฉางจื่อนะ เสนอให้ไปลองกันเองละกัน! ซูโหย่วเผิง ที่ไม่ต้องหัวล้านแล้ว ในที่สุด ก็สามารถแต่งตัวหล่อเหลาได้ ตัวละครสามัญครั้งนี้ เป็นบทที่เขาอยากจะลองมาตลอด ชื่อ "ตู้เฟย" โหย่วเผิงซาบซึ้งกับฉงเหยา ที่สร้างสรรค์บทที่น่าหลงใหลนี้ เป็นพิเศษเพื่อเขา และหวังว่า จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม

#ครั้งแรกของ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง"
    ระหว่างการเยี่ยมกองถ่าย ฉันพบว่า "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ได้ทำสถิติครั้งแรกใหม่ๆ ของฉงเหยาหลายอย่าง

1. ครั้งแรก ที่ใช้เนื้อเรื่องจากปี 1925 ในจีน ก่อนสงครามต่อต้านญี่ปุ่น แม้ว่าฉงเหยาจะเคยเขียนเรื่อง ในยุคต้นๆของจีน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" เป็นละครชุดแรกที่แบ่งยุคได้ชัดเจน เข้าคู่กับความเป็นไปของเซี่ยงไฮ้
2. ครั้งแรก ที่ถ่ายทำในเซี่ยงไฮ้ตลอดเรื่อง เพื่อรักษาความถูกต้อง ที่ละครจัดฉากไว้ ฉงเหยายืนยันให้กองถ่าย ปักหลักอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
3. ครั้งแรก ที่ละครมีการแสดงร้องเต้นบนเวที เนื่องจากเป็นความจำเป็นพิเศษของ "ยีผิง" ที่ต้องให้เธอเป็นนักร้องในไนท์คลับ ฉงเหยาได้แต่งเพลงมากมาย เพื่อให้เจ้าเวยร้อง และการแสดงบนเวทีแต่ละครั้ง ก็เป็นการปลุกชีวิตกลางคืนยุค 30 ของเซี่ยงไฮ้

#ที่สุดแห่งความมากของ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง"
    เขียนเรื่องครั้งแรกแล้ว "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ยังมี "ที่สุดแห่งความมาก"

1. นักแสดงมาก - เนื้อเรื่องของ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" รวมเอาความสัมพันธ์ของคน 3 รุ่นได้แก่ วัยแก่ วัยกลางคน วัยหนุ่มสาว แต่ละตัวละครต่างถักร้อย เป็นเรื่องราวในละคร ดังนั้น นักแสดงนำจึงมากเป็นพิเศษ
2. สถานที่ถ่ายทำมาก - "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" เป็นละครฟอร์มยักษ์ เนื้อเรื่องภายในจึงหลากหลาย ดังนั้น จึงต้องใช้สถานที่ถ่ายทำที่หลากหลาย พูดตามตรง เพื่อทำตามบท ทีมงานหาสถานที่ จนเท้าสองเท้าเป็นตาปลา
3. เครื่องแต่งกายมาก - นักแสดงนำมาก ไม่แปลกที่เสื้อผ้า ก็ต้องมากตาม พวกเราต้องใช้ 3 ห้องใหญ่ในการเก็บเสื้อผ้าทั้งหมด เป็นไง ช็อกไหม
4. ถ่ายซ้ำมาก - "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ได้ชื่อว่าเป็นผลงานของฉงเหยา ที่ต้องมีการถ่ายทำซ้ำหลายเทคที่สุด ฉงเหยามีผมขาวขึ้นมามาก คงเป็นเพราะละครเรื่องนี้ ด้วยเป็นละครย้อนยุค เพื่อความสมบูรณ์ของทุกฉาก ฉงเหยาเรียกร้องความงาม ความสมบูรณ์ทุกกระเบียดนิ้ว แค่การถ่ายทำที่ถนนที่วุ่นวายของเซี่ยงไฮ้ ก็เสียเวลาและเทปไปไม่น้อย อย่างไรก็ดี ฉงเหาก็ยังไม่พอใจ ขอถ่ายซ้ำอีก มีครั้งหนึ่ง ทรงผมของเจ้าเวย ไม่ปะติดปะต่อกันระหว่างฉาก ทำให้ต้องถ่ายซ้ำถึง 8 ฉากเป็นสถิติ โรคนี้ของฉงเหยา คงไม่มียารักษา
5. ข่าวลือมาก - ตั้งแต่ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" เริ่มเปิดกล้อง ผู้อ่านคงจะเห็นข่าวลืออกมามากมาย แล้วยิ่งมี รายงานข่าวเท็จออกมา เหตุผลก็คือ การที่กองถ่ายไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล การทำแบบนี้มีเหตุผล จากการที่เคยประสบจากการถ่าย "หวนจูเก๋อเก๋อ 2" ตอนนั้น คิวการถ่ายทำถูกกระทบอย่างแรง จากเหล่าแฟนละคร ช่างภาพ พวกติดตามดารา บางทีพวกนี้ก็ทำฉากที่ถ่ายทำเสีย อีกอย่างที่หนักยิ่งกว่าก็คือ มีคนใช้ชื่อฉงเหยา ออนิยาย "หวนจูเก๋อเก๋อ" ปลอม ทำให้เกิดความสับสนต่อผู้อ่าน นอกจากนี้ รูปภาพจากละครเปิดเผยมากเกินไป ทำให้มีรูปภาพผิดลิขสิทธิ์ ออกมามากมาย พิจารณาจากปัญหาเหล่านี้ สถานีCCTV จึงออกกฎห้ามบุคคลภายนอกเข้า ระหว่าง 5 เดือนของการถ่ายทำ จะไม่ยอมให้มีการถ่ายรูป หรือสัมภาษณ์ใดใดทั้งสิ้น หากมีบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้ามาในเขต จะต้องได้รับการเชิญตัวออกไปทันที และเพื่อความปลอดภัย จึงให้มียามคอยเฝ้าไว้ ทุกจุดรอบๆสถานที่ การกระทำเช่นนี้ ทำให้การถ่ายทำดำเนินไปด้วยดี และสามารถเก็บความเแปลกใหม่ของละครเอาไว้ได้ ดังนั้น ความลับจึงหมายความว่า ข่าวลือย่อมแพร่ออกมา เป็นเงาตามตัว
   1. ข่าวลือ 1 - เจ้าเวยไม่พอใจภาพลักษณ์ ขู่จะเลิกเล่น
      ข่าวลือนี้ ทำร้ายเจ้าเวยจริงๆ เท่าที่รู้ เจ้าเวยเป็นคนแรกที่แสดงออก ในการต่อสู้ ให้ได้มาซึ่งบท "ยีผิง" นี้ เธอจะเอาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ มาเป็นเหตุผลไม่ถ่ายได้อย่างไร? ก่อนที่ละครจะเริ่มถ่ายทำ นักแสดงจะต้องมาลอง ภาพลักษณ์ที่สร้างโดยดีไซเนอร์ โดยปกติแล้ว เพื่อให้ได้ผลงานเยี่ยมที่สุด จะไม่มีทางลองครั้งเดียวก็ OK เจ้าเวยเป็นนักแสดงที่ เรียกร้องความสมบูรณ์แบบสูงคนหนึ่ง กับปัญหาวิกผม จึงแน่นอนที่เธอจะเสนอความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จริงๆแล้ว ความเห็นพวกนี้ ก็ได้รับความชื่นชมจากฉงเหยา ถึงจะได้ภาพลักษณ์หลายแบบ ของเจ้าเวยออกมา ไม่นึกว่า การลองที่เปิดเผยตรงไปตรงมา จะนำมาซึ่งข่าวลือว่าจะเลิกเล่น เจ้าเวยผู้น่าสงสาร ไปทำให้ใครโกรธแค้นละเนี่ย! ถึงตอนนี้ ภาพลักษณ์ของเจ้าเวย เปิดเผยออกมาแล้ว ทุกคนคิดว่ายังไง?
   2. ข่าวลือ 2 - กู่จวี้จีถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว
      หากว่าพวกคุณได้ไปอยู่ในโรงถ่าย จะต้องด่าข่าวลือนี้แน่ เพราะว่ามันห่างไกลความจริงเหลือเกิน กู่จวี้จี เจ้าเวย หลินซินหยู ซูโหย่วเผิง และคนอื่นๆ พวกเขามักจะเล่นไพ่ UNO กัน ใครมีคิวว่าง ก็จะรวบรวมพรรคพวก พอมีคนแพ้ พวกเขาจะมีวิธี ลงโทษแก้เผ็ดที่แปลกมาก เช่น วิ่งรอบโรงถ่าย 3 รอบ วิ่งขึ้นลงบันได ลงโทษให้ดื่มน้ำ เป็นต้น ฮ่า! เสี่ยวฉางจื่อ เห็นกับตาตัวเองเลยว่า ซินหยูของพวกเรา วิ่งไปมารอบโรงถ่าย ซินหยูไม่ลืมทำหน้าทะเล้น พูดกับฉันว่า "เป็นคนต้องรักษาคำพูด แพ้แล้วก็ต้องวิ่ง อย่างน้อยก็ทำให้สุขภาพแข็งแรง" ต่อมาก็เห็นกู่จวี้จี วิ่งขึ้นๆลงๆบันได ไม่ต้องบอก คราวนี้กู่จวี้จีแพ้ ซูโหย่วเผิงสิโชคร้ายที่สุด เพราะว่าดื่มน้ำเข้าไปมากไป เลยกิน NG ตอนถ่ายอยู่บ่อยๆ เพราะว่า ต้องรีบวิ่งไปห้องน้ำน่ะสิ
      กู่จวี้จีเข้ากับคนที่กองถ่ายได้ดี แม้แต่ "เอ่อเจี๋ย" (ชื่อจริง หมิงเซิ่ง) ที่เป็นน้องชายของ "หยูผิง" ก็ชอบเล่นกับเขา หมิงเซิ่งเป็นเด็กน่ารัก ใครเห็นใครก็รัก เมื่อมีเวลาว่าง เขาจะหยิบโยโย่มาเล่น กู่จวี้จีก็จะเข้ามาเล่นด้วย โชว์ท่าทีเด็ดทีละท่าสองท่า ดูเหล่านักแสดง ต่างเหมือนเป็นคนบ้านเดียวกันเช่นนี้ ทำไมมีข่าวว่าถูกกีดกันได้นะ?
   3. ข่าวลือ 3 - ซินหยูงานหนัก จนเกิดปัญหาตับ ไม่เกี่ยวกับเวย ไม่แปล
   4. ข่าวลือ 4 - กู่จวี้จีหมดสติ 2 ครั้ง ไม่เกี่ยวกับเวย ไม่แปล
   5. ข่าวลือ 5 - นักแสดงต้องโดยสารรถนักโทษไปถ่ายละคร
      ฮ่าฮ่า! ข่าวนี้ฟังแล้วน่าหัวเราะจริงๆ! รถนักโทษอะไร? เป็นแค่รถบัส ที่พนักงานรักษาความปลอดภัย จัดให้ทีมงานเป็นพิเศษ คุณรู้ไหม? สถานี CCTV ได้จ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย มาดูแลการนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่นักแสดงนำ ทีมงาน ตัวประกอบ (ตั้งแต่ไม่ถึงร้อย จนถึงหลายร้อย) ให้นั่งรถบัสคันใหญ่ ย่อมไม่ใช่อะไร รถนักโทษน่าสมเพชขนาดนั้น พูดก็พูดเถอะ ถึงอยากได้จริง สถานีจะมีอำนาจ ไปขอรถนักโทษได้อย่างไร?
   6. ข่าวลือ 6 - ซูโหย่วเผิงตกม้า หมดสติ 5 ชั่วโมง ไม่เกี่ยวกับเวย ไม่แปล

เนื้อหาจาก Taiwan Crown Magazine (9/2000), รูปจาก Zhaowei International Net Family