Discussion Forum View and Sign Guestbook Sitemap Contact Us

 • What's New
 • Profile
 • Filmography
    - ฮว่าหุน
      (La Peintre)

    - หนู่เอ๋อกู่
      (Penitentiary
      Angel)

    - หยวนเฟิ้น 2000
      (Deja Vu 2000)

    - พายุดาบดวลสะท้าน
      ฟ้า(The Duel)

    - เสียหนี่ฉ่วงเทียน
      กวน (Swordgirl)

    - ฉิงเซินเซิน หวี่หมง
      หมง (Romance
      In The Rain)

    - เส้าหลินจู๋ฉิว
      (Shaolin Soccer)

    - เทียนตี้อิงสง
      (The Heroes of
      Heaven & Earth)

 • Discography
 • Music Video
 • News
 • Gallery
 • Commercial
 • Fanclub
 • Miscellaneous
 • Link
Last updated:Mar 5, 2001

ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง - พรีวิว 7
(Love and Rain)

[ เรื่องย่อ | พรีวิว 1 | พรีวิว 2 | พรีวิว 3 | พรีวิว 4 | พรีวิว 5 | พรีวิว 6 | พรีวิว 7 | พรีวิว 8 | รูปภาพ 1
| Animated Preview | Download | Postcard Book | Memoir Book ]

crown563.jpg
ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง - เล่าแต่ต้นเรื่อง (ตัดทอน)
เขียนโดย ฉงเหยา

crown563-01.jpgครอบครัวนี้
    ในนิตยสารฉบับนี้ ฉันจะขอเริ่มคุยจากตัวละคร ลู่เจิ้นหัว กับครอบครัวที่เซี่ยงไฮ้ของเขา ในนิยายเดิมของฉัน ลู่เจิ้นหัว เป็นนายพลยุคก่อนปฏิวัติ ใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ฉันก็ยังคงรักษาจุดนี้ไว้ ลู่เจิ้นหัวมีฉายาว่า "เสือดาวดำ" เป็นบุคคลที่มีอำนาจ และชื่อเสียงในตงเป่ย (เขตตะวันออกเฉียงเหนือ)

    เพื่อการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว ฉันใช้เพียงไม่กี่ฉาก ในการอธิบายถึงการแต่งงานของ ลู่เจิ้นหัวกับเหวินเพ่ย แล้วก็มาแต่งกับเสวี่ยฉิน ฟังดูแล้วง่าย แต่ถ่ายจริงแล้วเป็นงานใหญ่ ต้องใช้ตัวประกอบเยอะ มีทั้งกองม้า กองพล วงดนตรี โรงละคร แล้วก็ฉากแต่งงาน... เปลืองแรงคนและเงินไม่น้อย ถ่ายไปหลายวันจึงเสร็จ แต่มันกลับเป็นเพียง 20 นาที ในละครจริง

    ลู่เจิ้นหัวเป็นคนตงเป่ย แต่ทำไมเรื่องของเรา ไม่เกิดขึ้นที่ตงเป่ย แต่กลับมาเกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ ที่ห่างออกมาหลายสิบลี้นะ? อันนี้ ต้องขอพูดประวัติศาสตร์

crown563-02.jpgcrown563-03.jpg
    ที่แท้ ตั้งแต่ญี่ปุ่นบุกรุกจีนทางภาคเหนือ คนญี่ปุ่นได้ครอบครองตงเป่ย เอาไว้เป็นเมืองขึ้น ลู่เจิ้นหัวที่เป็นนายพล จะยอมใช้ชีวิตในเมืองขึ้นได้อย่างไร? ดังนั้น ปี 1931 ลู่เจิ้นหัวได้พาเหวินเพ่ย เสวี่ยฉิน และลูกสาวลูกชาย ลงมาเซี่ยงไฮ้ หลังจากมาถึงเซี่ยงไฮ้ ลู่เจิ้นหัวก็แก่แล้ว แม้ว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ จะถูกทิ้งอยู่ที่ตงเป่ย แม้ว่า เขาจะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาแล้ว แต่เขาก็ยังมีเงินเยอะ อาศัยอยู่ในเขตคุ้มครองของฝรั่งเศส ในบ้านหรูหราที่สุดบ้านหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ แต่ว่า แม่ลูกเหวินเพ่ย ถูกไล่ให้ย้ายออกจากบ้านลู่ ไปเช่าห้องเล็กๆบนดาดฟ้า ของบ้านเก่าๆแห่งหนึ่ง (คล้ายๆห้องเก็บของ) ทางใต้ของเซี่ยงไฮ้ ใช้ชีวิตเรียบง่าย และแร้นแค้น
crown563-04.jpgcrown563-05.jpg
    เรื่องราวของเรา เริ่มจากฤดูใบไม้ร่วงปี 1935 หยูผิงพบกับซูหวนและตู้เฟยครั้งแรก เรื่องราวส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในปี 1936 ถึง 1937 ปี 1936 ยีผิงอายุ 19 ปี เธอเรียกบ้านหรูในเขตฝรั่งเศสนั่นว่า "ฝั่งนั้น" ที่ "ฝั่งนั้น" มีพ่อของเธอ เสวี่ยฉิน หยูผิง เอ่อหาว ม่งผิง เอ่อเจี๋ย ทั้งครอบครัว 6 คน ที่ "ฝั่งนี้" มีแต่เธอกับแม่ เหวินเพ่ย เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ชายคนหนึ่ง แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็ทิ้งได้โดยไม่สนใจไยดี ยีผิงรักแม่มาก เห็นแม่ซูบเซียว เห็นเสวี่ยฉินสดใส เธอรู้สึกไม่พอใจ กับความไม่ยุติธรรม เพื่อปกป้องเหวินเพ่ย เธอไม่เสียใจที่จะ ก่อ "สงคราม" กับลู่เจิ้นหัว สงครามที่รุนแรง จนทำให้เธอเจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ และในสงครามนี้เอง ลู่เจิ้นหัวถึงได้ตระหนักว่า ลูกสาวคนที่ตนเองมองข้ามมาโดยตลอด จะเป็น "เสือดาวน้อย" ที่มีค่าที่สุด ตอนที่ลู่เจิ้นหัวรู้ข้อนี้ อยากจะเรียกลูกสาวคนนี้กลับคืนมา ความเจ็บปวดได้ฝังลึก ลงบนตัวของเสือดาวน้อยแล้ว และเสือดาวน้อยที่บาดเจ็บนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่า เสือดาวเฒ่าผู้หยิ่งผยองเสียอีก นี่เป็นครอบครัวที่แปลก มีบ้าน "ฝั่งนั้น" และ "ฝั่งนี้" ที่ฝั่งนั้น ชีวิตฟู่ฟ่า แต่ก็เต็มไปด้วย ความขัดแย้งหลายรูปแบบ ที่ฝั่งนี้ แม่ลูก 2 คน มีน้ำตาเป็นเพื่อน

crown563-06.jpgผิงผิง - รักแรกของลู่เจิ้นหัว
    ยีผิงคิดอยู่ตลอดเวลาว่า พ่อของเธอ คือคนที่ไม่รับผิดชอบในความรัก ดังนั้น เธอจึงไม่ให้อภัยเขา สำหรับคนที่เคยอ่าน "เยียนหวี่หมงหมง" คุณก็คงรู้ว่า ลู่เจิ้นหัวมีหญิงในใจของเขา รักแรกของเขา และเป็นแผลในใจของเขา ผู้หญิงคนนี้คือ "ผิงผิง" นี่คือเหตุผลว่าทำไม ลูกสาวของเขาทุกคน จึงมีชื่อ "ผิง"

    ในละครชุดนี้ ผิงผิงปรากฏตัวเพียง 4 ฉาก เราโชคดีที่ได้ ท่านหญิงฉิง - หวังเยี่ยน มาเป็นนักแสดงรับเชิญ ผิงผิงเป็นลูกสาวของ องค์ชายแห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งก็เรียกได้ว่า เป็นองค์หญิงคนหนึ่ง ดังนั้น ท่านหญิงฉิงใน "หวนจูเก๋อเก๋อ 2" จึงกลายเป็น องค์หญิงผิงผิงใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ผู้อ่านที่ชอบเธอ ต้องสังเกตให้ดี ไม่งั้นคุณอาจจะพลาดฉากของเธอ!

crown563-07.jpg
การเสาะหาสถานที่สวยงาม
    เซี่ยงไฮ้เป็นพื้นที่ราบ ไม่มีเขา ไม่มีน้ำ แม่น้ำสายเดียวก็คือ แม่น้ำหวงผู่ แต่ริมฝั่งหวงผู่เดี๋ยวนี้ เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ไม่หลงเหลือความเก่าแก่อยู่เลย ถนนก็เต็มไปด้วยรถ ดังนั้น จึงมีถนนสายเก่าแก่สายหนึ่ง ที่ใช้ถ่ายได้ แต่ด้วยความลำบาก ทีมงานก็สามารถหาฉากสวยๆงามๆ มาใช้ได้หลายฉาก
crown563-08.jpg
สถานีรถแห่งการพลัดพราก
    ใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" มีฉากสถานีรถไฟหลายฉาก ฉันรู้ก่อนแล้วว่ามันไม่ง่ายเลย ที่จะถ่ายฉากที่สถานีรถไฟ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในละคร ยีผิงกับซูหวน มี 2 ฉากพลัดพราก ทั้งสองฉากอยู่ที่สถานีรถไฟ ครั้งหนึ่งเป็นวันในฤดูหนาว ยีผิงกับซูหวนต้องจากกัน อย่างอาลัยอาวรณ์ อีกครั้งหนึ่ง เป็นตอนที่อยู่กับฟังหวี ไปส่งซูหวนกับเอ่อหาว ที่สถานี สองสาวอกหักยืนมองรถไฟ ที่ค่อยๆเคลื่อนจากไป โศกเศร้าเสียใจอย่างสุดแสน
crown563-09.jpg
    เพื่อละคร 2 ฉากนี้ ฉันได้เขียนเพลงหนึ่งขึ้นมา "หลี่เปี๋ยเตอเชอจั้น" (สถานีรถแห่งการพลัดพราก) มอบให้ยีผิงร้อง เนื้อเพลงมีดังนี้:
crown563-10.jpg
ตังหนี่จิ๋นจิ่นว่อเจ่อหว่อเตอโส่ว
ไจ้ซันซัวเจ่อเจินจ้งเจินจ้ง
ตังหนี่เซินเซินคั่นเจ่อหว่อเตอเหยี่ยน
ไจ้ซันซัวเจ่อเปี๋ยซ่งเปี๋ยซ่ง
หว่อเม๋ยโหย่วเหยียนหวี่เขอหยี่หุยต๋า
อินเว่ยหว่อจื๋อโหย่วซินท่งซินท่ง

ตังหนี่โจ่วซ่างหลี่เปี๋ยเตอเชอจั้น
หว่อจงหวีปู้ถิงเตอฮูฮว้านฮูฮว้าน
เหยี่ยนคั่นเจ่อหนี่เตอเชอจื่อเยวี่ยโจ่วเยวี่ยหย่วน
หว่อเตอซินอีเพี่ยนหลิงล่วนหลิงล่วน
เชียนเหยียนว่านหวี่หายไหลปู้จี๋ซัว
หว่อเตอเล่ยเจ๋าหยี่ฟ่านล่านฟ่านล่าน

ฉงจื่อหว่อหมีซ่างเลอน่าเก้อเชอจั้น
ตัวเส่าชื่อจ้ายน่าเอ๋อชือชือเตอคั่น
หลี่เปี๋ยเตออีมู่จ่งฮุ่ยฉงเหยี่ยน
หนี๋จี่ฮูป๋าโส่วเอ๋อฮุยต้วนฮุยต้วน
เหอสือเลี่ยเชอเหนิงโก้วป๋าหนี่ไต้หุย

หว่อจ้ายเจ้อเอ๋อชือชือเตอพ่าน
หนี่เซินจ้ายเหอฟังหว่อปู้ก่วนปู้ก่วน
ฉิ่งเว่ยหว่อเป่าจ้งเชียนว่านเชียนว่าน

เมื่อเธอกุมมือฉันไว้แน่นกุมไว้แน่น
ขอให้ดูแลตัวเองดูแลตัวเอง
เมื่อเธอมองนัยน์ตาของฉันลึกลึก
ขอให้อย่ามาส่งอย่ามาส่ง
ฉันไม่มีคำพูดที่จะตอบได้
เพราะว่าฉันมีแต่ใจที่เจ็บใจที่เจ็บ

เมื่อเธอก้าวขึ้นสถานีรถแห่งการพลัดพราก
ฉันร้องเรียกร้องเรียกไม่หยุด
ตามองรถที่กำลังเคลื่อนไปไกลขึ้นไกลขึ้น
ใจของฉันดวงนี้สับสนสับสน
คำพูดเป็นหมื่นเป็นแสนที่พูดไม่ทัน
แต่แรกเริ่มน้ำตาของฉันก็ไหลพรากไหลพราก

ตั้งแต่นั้นมาฉันก็หลงอยู่กับสถานีรถนั่น
ไม่รู้กี่ครั้งที่เอาแต่เฝ้ามองที่นั่น
ภาพแห่งการพรากจากย้อนเข้ามาในสมอง
เห็นมือของเธอโบกไปโบกมา
เมื่อไหร่หนอรถไฟถึงจะพาเธอกลับมา

ฉันได้แต่เฝ้ารออยู่ที่นี่
ตัวเธออยู่ที่ไหนฉันไม่สนไม่สน
ขอให้ดูแลตนเองเพื่อฉันอย่างยิ่งอย่างยิ่ง

crown563-11.jpg
    ใช่แล้ว สถานีรถแห่งการพลัดพราก รถไฟพลังไอน้ำปี 1937 สถานีเก่าปี 1937! ฉันรู้ว่าฉากหลังแบบนี้หายากมาก แต่ดีกรีความยากที่แท้จริง เกินกว่าที่ฉันคิดนัก

    รถไฟและสถานีโบราณแบบนี้ หาไม่ได้ในเซี่ยงไฮ้แน่นอน หลังจากการเสาะหาหลายเดือน ทีมงานก็ยืม "สถานีรถไฟเซี่ยกวน" มาถ่ายทำได้ นักแสดงและทีมงานของพวกเรา ก็เลยลงไปที่เซี่ยกวน (เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การถ่ายทำ ทางสถานีต้องหยุดเดินรถให้ เป็น Mission Impossible จริงๆ)

crown563-12.jpg    ก่อนการถ่ายทำจะเริ่ม ซิ่วฉง(ลูกสะใภ้ของฉงเหยา) ได้เตือนทาง CCTV แล้วว่า เราต้องการ พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนมาก จากประสบการณ์คราวถ่าย "หวนจูเก๋อเก๋อ" อย่างไรก็ตาม CCTV ไม่มีประสบการณ์แบบนี้ จึงละเลยจุดของเรา CCTV เป็นสถานีใหญ่และมีอิทธิพล เขาคิดว่าปัญหาด้านนี้ไม่มี เขาจึงจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย มาแค่ 6 คน เพื่อรักษาความสงบ ที่จริง CCTV ไม่เคยถ่ายละครของนักแสดงเหล่านี้มาก่อน พวกเขาไม่รู้เลยว่า มันจะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงขนาดไหน

    แล้วก็จริง ยันไม่ทันถ่ายทำ ตารางการทำงานก็รั่วไหล ออกจากคนของสถานี เมื่อกองถ่ายไปถึง ก็ตกใจมาก คนเต็มสถานีไปหมด มาดูการถ่ายละครของเรา แล้วยังมีเด็กนักเรียนตัวเล็กๆมากมาย ยืนรออยู่ใต้โบกี้รถไฟ บางคนก็นั่งบนราง พอทุกคนเห็นเจ้าเวย ก็ร้องตะโกนกันเสียงดัง "เสี่ยวเยี่ยนจื่อ! ฉันรักคุณ.. เจ้าเวย ฉันรักคุณ" เสียงดังอื้ออึงไปหมด (555 เจอกระแสความดังของเวยเวยให้แล้ว) สถานการณ์แบบนี้ จะให้กู่จวี้จีกับเจ้าเวย แสดงบทพรากจากที่ตื้นตันใจได้อย่างไร? ฝ่ายถ่ายทำเห็นแบบนี้ ถึงรู้ว่าเรื่องราวร้ายแรง เริ่มไล่ฝูงชนออกไป แต่พวกชาวบ้านไหนเลยจะยอมไป? ดึงไปดึงมา บางคนเกือบชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ พวกเขาพูดว่า "พวกคุณถ่ายละครที่นี่ พวกเราก็จะอยู่ที่นี่ดูละคร!" แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ช่วยไม่ได้มาก เด็กๆอยู่ใต้โบกี้รถไฟเต็มไปหมด ไม่มีใครยอมไป รถไฟ 2 โบกี้ที่เราใช้นี้ ต้องวิ่งไปวิ่งมา อย่างงี้จะถ่ายได้ยังไง?

crown563-13.jpg
    ผลสุดท้าย ทางทีมงานต้องโทรมาหาฉัน ฉันเลยต้องแก้ให้ 2 ฉากกลายเป็นฉากตอนกลางคืน (คืออันที่พวกเราเห็น ในpreview clip) มาแอบถ่ายกันกลางดึก สำหรับฉากที่แก้ไม่ได้จริงๆ ต้องใช้การบังคับ ผลักไสจากพนักงานรักษาความปลอดภัย งานถึงเสร็จ

    หยูผิงกับตู้เฟย ก็มี "สถานีรถแห่งการพลัดพราก" 1 ฉาก สำหรับฉากนี้ เรายืมสถานีเล็กๆที่เมืองอื่น ฉากนี้ ตู้เฟยชกต่อยกับคนที่ชานชาลา หยูผิงอยู่บนรถไฟ เรียกแล้วเรียกอีก จากนั้นรถไฟก็เริ่มเคลื่อน ตู้เฟยตกใจ พยายามวิ่งตาม ไม่ต้องบอก ทุกคนคงรู้ว่า ฉากนี้ถ่ายยากขนาดไหน!

crown563-14.jpg
เนื้อหาจาก Taiwan Crown Magazine No.563(1/2001), รูปจาก Chiungyao Website, Zhaowei International Net Family

[ เรื่องย่อ | พรีวิว 1 | พรีวิว 2 | พรีวิว 3 | พรีวิว 4 | พรีวิว 5 | พรีวิว 6 | พรีวิว 7 | พรีวิว 8 | รูปภาพ 1
| Animated Preview | Download | Postcard Book | Memoir Book ]

Copyright © 2000 - 2001 Sawasdee! Vicki Thailand Fanclub (Unofficial)
Website Managed and Constructed by: NuWee