Discussion Forum View and Sign Guestbook Sitemap Contact Us

 • What's New
 • Profile
 • Filmography
    - ฮว่าหุน
      (La Peintre)

    - หนู่เอ๋อกู่
      (Penitentiary
      Angel)

    - หยวนเฟิ้น 2000
      (Deja Vu 2000)

    - พายุดาบดวลสะท้าน
      ฟ้า(The Duel)

    - เสียหนี่ฉ่วงเทียน
      กวน (Swordgirl)

    - ฉิงเซินเซิน หวี่หมง
      หมง (Romance
      In The Rain)

    - เส้าหลินจู๋ฉิว
      (Shaolin Soccer)

    - เทียนตี้อิงสง
      (The Heroes of
      Heaven & Earth)

 • Discography
 • Music Video
 • News
 • Gallery
 • Commercial
 • Fanclub
 • Miscellaneous
 • Link
Last updated:Mar 3, 2001

ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง - พรีวิว 6
(Love and Rain)

[ เรื่องย่อ | พรีวิว 1 | พรีวิว 2 | พรีวิว 3 | พรีวิว 4 | พรีวิว 5 | พรีวิว 6 | พรีวิว 7 | พรีวิว 8 | รูปภาพ 1
| Animated Preview | Download | Postcard Book | Memoir Book ]

crown562.jpg
ลมและฝนของ ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง (ตัดทอน)
เขียนโดย ฉงเหยา

crown562-01.jpg    ฉันเขียนนิยายมา 60 กว่าเรื่อง แต่ที่ทำเป็นละครชุดนั้น มีไม่มาก มีคนถามฉันว่า เรื่องอย่าง "ชวนไหว้" (ที่เวยเวยบอกว่าชอบ) ฉันไม่เอามาทำ แต่ทำไมถึงลำเอียงรักแต่ "เยียนหวี่หมงหมง"? นับถึงตอนนี้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง

    ใช่ ฉันเองก็ลำเอียงรักนิยายของฉัน เรื่องราว "เยียนหวี่หมงหมง" คงจะเป็นนิยายที่เขียนได้ น่าประทับใจที่สุด คงจะเป็นเพราะตอนที่ฉันเขียนนั้น ยังอายุน้อย ใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ฉันชอบ "ความหยิ่งทะนง" ของยีผิง ชอบ "ความตรงไปตรงมา" ของซูหวน ฉันซาบซึ้งไปกับความรักที่ลึกซึ้ง และทรมานจิตใจของทั้งสอง แต่ว่า ฉันไม่ชอบหยูผิง อยากจะขอโอกาสเขียนใหม่อีกครั้ง และฉันก็ไม่ชอบตอนจบในนิยายเช่นหัน (จบไม่แฮ็ปปี้ แต่เรากลับชอบนะ) อยากให้ตอนจบกับมันใหม่ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" จึงถือกำเนิดขึ้น

crown562-01.jpg
    ก่อนจะแก้ไข ฉันตัดสินใจคงไว้ ซึ่งพื้นฐานของครอบครัว ส่วนพล็อตเรื่องอื่นจะขอเปลี่ยน เมื่อผู้อ่านได้เห็นภาพ มีคนถามฉันว่า ทำไมถึงต้องสร้างตัวละครใหม่ ตู้เฟย? ทำไมถึงลำเอียงรักซูโหย่วเผิง? จริงๆแล้ว ฉันสร้างตู้เฟยมาเพื่อหยูผิง!

crown562-03.jpg    ละครชุดนี้ของฉัน มีคน 2 คนที่ยึดมั่นต่อความรักที่สุด หนึ่งคือยีผิง ตั้งแต่เธอหลงรักซูหวนแล้ว ก็ไม่เคยโลเล เสมือนถลำเข้าไปในความรัก ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม อีกคนหนึ่ง ก็คือตู้เฟย เขากับซูหวน รู้จักหยูผิงวันเดียวกัน ซึ่งก็เป็นวันเดียวกับที่รู้จักยีผิง ซูหวนหลงรักยีผิง แต่เขากลับรักหยูผิง เขาเคยพูดกับหยูผิงว่า "คุณมีความรู้สึกโง่ๆของคุณ ผมก็มีความรู้สึกโง่ๆของผม ซูหวนก็มีความรู้สึกโง่ๆของเขา ปล่อยให้พวกเราต่างคนต่างโง่ไปเถอะ อย่าไปฝืนกันเลย" เขายังเคยพูดคำเตือนสติซูหวนว่า "ซูหวน นายต้องเอาให้แน่นะ นี่ไม่ใช่ยุคชิง นายจะมีสามสี่ภรรยาก็ได้ ถึงมีได้จริง แต่ยีผิงกับหยูผิง คือจุดยืนที่แตกต่างกัน 2 ฝ่าย หากว่านายเลือกใครแล้ว ก็ให้ยึดมั่นกับคนนั้น! น้ำตาของอีกคน ความเจ็บปวดของอีกคน ก็ไม่เกี่ยวกับนายอีกต่อไป! นายต้องใจร้ายกับคนนั้น อดทนกับคนนี้ ไม่งั้นยุ่งแน่" ใช่ ในชีวิตจริง คนเรามีความเห็นใจ ความสงสาร จึงเกิดปัญหามากมาย ฉันชอบตู้เฟย ตัวละครใหม่ตัวนี้

    ยีผิงเกิดมาโดยไร้ความรักจากพ่อ มีชีวิตที่แร้นแค้นกับแม่ - เหวินเพ่ย, แรงกดดันในชีวิต ความอับอายจากการต้องขอเงินพ่อ แต่ละมื้อๆ จึงนำมาซึ่งความที่ต้อง ติดอาวุธให้กับตัวเอง crown562-04.jpgเธอพูดยอมรับกับเหวินเพ่ยว่า "แต่ก่อน ฉันถือคติว่า [ตาต่อตา ฟันต่อฟัน] ตอนนี้ ด้วยอิทธิพลของซูหวน ฉันเปลี่ยนไป ฉันไม่แข็งกระด้างอีกต่อไป แต่ว่าฉันยังคง [ทนลำบากได้ แต่ทนเหยียดหยามไม่ได้! เงินซื้อคน ทองซื้อคน แต่เหตุผลซื้อคนไม่ได้!]" นี่ก็คือยีผิง [ทนเหยียดหยามไม่ได้ เหตุผลซื้อคนไม่ได้] บุคลิกแบบนี้ จริงๆก็คือบุคลิกของฉัน ฉันคิดว่า หลายคนก็เช่นกัน ความที่ในใจของยีผิง มีทั้งความรัก และความเกลียดพ่อ จึงทำให้ การจัดการความรักของเธอ สับสนวุ่นวาย เธอมักจะพูดคำที่ไม่ควรพูด ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ซูหวนรับไม่ได้ ความรักระหว่างซูหวนกับยีผิง จึงมักจะมีแต่มรสุม

    ตัวละครซูหวน ในนิยายเดิมของฉัน เป็นเพียงบัณฑิตธรรมดาคนหนึ่ง แต่ในละครชุดนี้ เขาเป็นคนหนุ่มที่มีคุณธรรม มีความทะเยอทะยาน มีความรักเต็มเปี่ยม และบางครั้งก็มีอารมณ์ร้อน บุคลิกแบบนี้ ยากที่จะเขียน เนื่องจากฉันไม่ชอบเขียนคนที่ perfect เพราะฉันคิดว่า โลกนี้ไม่มีคนแบบนั้นอยู่ ดังนั้น ซูหวนจึงไม่ใช่คนที่ perfect จุดอ่อนของเขา ก็คือคำที่ตู้เฟยเคยพูด "ที่ควรจะใจร้าย ก็ไม่ใจร้ายพอ ที่ควรจะอดทน ก็ไม่อดทนพอ" กับยีผิง เขาเต็มไปด้วยความรัก และความปรารถนาดี หวังอย่างยิ่งว่า เธอจะมีจิตใจที่รักคน จิตใจที่ถูกคนรัก เขารับความคิด ที่เธอมีต่อพ่อไม่ได้ ผลก็คือ เรื่องของบ้านลู่กลายเป็นเชื้อเพลิง ที่ทำลายความรักของทั้งสองอย่างรุนแรง กับหยูผิง เขาเต็มไปด้วยความสงสาร และรู้สึกผิด เขาไม่สามารถซ่อนความชื่นชม ที่เขามีต่อหยูผิง เมื่อเขาได้อ่านไดอารี่ของยีผิง และพบแผนการแก้แค้นของเธอ มันทำให้เขาคลุ้มคลั่ง ในเวลานี้เอง หยูผิงปลอบโยนเขาอย่างอบอุ่น "ฉันบอกคุณแต่แรกแล้ว เมื่อใดก็ตาม ที่ยีผิงทำร้ายคุณ คุณยังมีฉัน!"

crown562-05.jpg    ยีผิงเป็นคนที่ซูหวนรัก แต่ว่า ด้านความรักเขากลับใจอ่อน หยูผิงแบบนี้ ทำให้เขาหวั่นไหว ในนิยายเดิมของฉัน เขาจะหันไปหาหยูผิงทันที เพื่อแก้แค้นยีผิง แต่ว่าใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ซูหวนไม่มีจิตใจแค้นเคืองขนาดนั้น และก็ไม่ได้เปลี่ยนใจง่าย ปี 1936 เป็นปีที่ สงครามจีน-ญี่ปุ่นก่อตัวขึ้น ด้วยความเจ็บปวดและสับสน เขาเลือกไปเป็นนักข่าวแนวหน้า ในสนามรบ เนื้อเรื่องมาถึงตอนนี้ มีจุดหักเหมากมาย ฉันขออุบไว้ก่อนละกัน!

    ฉบับนี้ ฉันขอแนะนำฉาก งานเลี้ยงรอบกองไฟ ก่อนหน้านี้ ฉันเคยบอกแล้วว่า คู่พี่น้องยีผิงกับหยูผิงนั้น เพื่อซูหวน จึงมีโรคใจระหว่างกันลึกๆ สองคนมีความคิดเรื่องบ้านไม่เหมือนกัน ยิ่งทำให้มีปมในใจที่แกะไม่ออก สำหรับหยูผิงแล้ว ความรัก เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ (ที่ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้า) เรื่องที่บ้าน เต็มไปด้วยความอ่อนใจ ที่ช่วยอะไรไม่ได้ สำหรับยีผิงแล้ว ความรัก เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เรื่องที่บ้าน เต็มไปด้วยความเจ็บปวด 2 พี่น้องนี้ คนนึงอาศัยอยู่ในบ้านหรูหนา ในอาณาเขตของฝรั่งเศส อีกคนอยู่ในบ้านหลังเก่าๆซอมซ่อ ทางใต้ของเมือง ชัวิตที่แตกต่างราวฟ้ากับดิน จะให้ 2 พี่น้อง มาหัวเราะสนุกสนานร่วมกัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ที่งานเลี้ยงรอบกองไฟนี้ พวกเธอสลัดจุดยืนของตนเอง ปลดปล่อย "ความรักของมนุษย์" ร่วมยิ้มด้วยกัน

crown562-06.jpg    พูดถึงฉากรอบกองไฟนี้ ตอนที่ถ่ายทำ มีแต่คำว่า ยาก ยาก ยาก ตัวประกอบเยอะ แต่ละคนต้องใส่ชุดพื้นเมืองมองโกล เล่นก็ยาก หาสถานที่ก็ยาก เรื่องหาสถานที่ เป็นเรื่องลำบากมากในละครเรื่องนี้ เพราะปัญหานี้ ทำให้ต้องแก้บทบ่อยๆ เช่น ฉันเขียนว่า ซูหวน ตู้เฟย หยูผิงไปเล่นน้ำ ในแม้น้ำมีหิน แล้วหยูผิงก็สะดุดหินลื่น ทีมงานบอกว่า หาแม่น้ำที่มีก้อนหินในเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ หรือฉากที่เอ่อหาว กับเข่อหวิน หลงเข้าไปในป่า แล้วพบต้นไม้ที่ทำบากไว้ ถึงออกมาได้ แต่ต้นไม้ในเซี่ยงไฮ้ห้ามทำรอยบาก เป็นต้น

    นี่เป็นครั้งแรก ที่ฉันเห็นความแตกต่างระหว่าง การทำงานของจีนกับไต้หวัน พวกเขาจะต้อง "วิจัย" ก่อนทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไร และนี่ทำให้ฉันไม่พอใจ ตัวอย่างเช่น ยีผิงร้องเพลงใน Big Shanghai Dancing Hall ตั้งแต่เครื่องดนตรีถึงไมโครโฟน จะต้องวิจับ ฉันไม่ชอบไมใครโฟนอันใหญ่นั่นเลย เพราะมันจะบังหน้าของเจ้าเวยหมด แต่ทีมงานบอกว่า นี่เป็นผลจากการวิจัย เปลี่ยนไม่ได้ แล้วยังมีอีกว่า ฉันเขียนว่าหน้าHall จะมีคนและรถมากมาย แต่ที่ฉันเห็น มันมีแค่ 2 คัน พวกเขาบอกว่า หารถปี 1936 ได้แค่ 2 คัน และแต่ละคันก็ค่าเช่ากว่า 5 พันหยวนต่อวัน ฉันจึงถามเขาว่า "คุณคิดว่า หลินซินหยู เจ้าเวย กู่จวี้จี และซูโหย่วเผิง.. เป็นคนยุค 1936? ละครเรื่องนี้ คนต่างก็สวมปลอม รถต้องเอาจริงด้วยหรือ?" ดังนั้น พวกเขาจึงได้หารถมาเพิ่มได้

crown562-07.jpg
crown562-08.jpg
    ย้อนกับมาพูดฉากรอบกองไฟ กว่าจะหาที่ถ่ายได้ก็หลายเดือน ต้องหาคนมาเข้าฉาก บางที่ก็ไม่มีน้ำ บางที่ก็ห้ามจุดไฟ พอเจอที่ดีแล้ว นักแสดงก็มีเรื่องอีก เช่น ซูโหย่วเผิงตกม้า เจ้าเวยไปสอบ ฉากนี้จะขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทำให้ต้องเลื่อนออกไป เลื่อนไปจนถึงเดือนสุดท้าย นักแสดงแต่ละคนเริ่มเหนื่อยล้า โดยเฉพาะกู่จวี้จี มีผื่นเต็มหน้า แต่งหน้ายังไงก็ปิดไม่หมด คนอื่นก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน แต่ทุกคนรู้ว่า นี่เป็นฉากสำคัญ พยายามดึงแรงใจของตน แต่แล้วก็ไม่ได้ถ่ายอีก เพราะสถานที่ไม่พร้อม และกองถ่ายต้องรีบไปนานกิง ฉากนี้ จึงกลายเป็นฉากปิดกล้อง รอถ่ายที่นานกิง แล้วกลับมา โชคดี ที่ผู้กำกับไม่ได้ตัดฉากนี้ออก ยีผิง หยูผิง ซูหวน ตู้เฟย ฟังหวี เข่อหวิน เอ่อหาว และคนอื่นๆ แสดงได้ประทับใจ ริมแม่น้ำ มีฉากหลังที่สวยงาม ต่อไปฉันจะพูดถึง "ฝน" ใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง"

    ฉากหลังของ "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" จัดไว้ที่ปี 1936 เป็นปีที่พิเศษ เพราะพอ 1937 สงครามต่อต้านญี่ปุ่นก็อุบัติขึ้น "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ไม่ใช่หนังสงคราม แต่ตอนท้ายๆ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยง ช่วงเวลาสงครามได้ กลุ่มหนุ่มสาวในเรื่องของเรา ไม่เพียงแต่เผชิญหน้ากับรักส่วนตัว แต่ยังมีความรักชาติบ้านเมืองด้วย ในละคร ซูหวนได้แปลงกลอนปลุกใจ และพูดกับตู้เฟยว่า

"ฟงเซินหวี่เซินฟงหวี่เซิน เซินเซินรู่เอ่อ
กั๋วซื่อเจียซื่อกั๋วเจียซื่อ ซื่อซื่อซางซิน"
แปลว่า
"เสียงลมเสียงฝนเสียงลมฝน แต่ละเสียงเข้าหู
เรื่องเมืองเรื่องบ้านเรื่องบ้านเมือง แต่ละเรื่องช้ำใจ"
crown562-10.jpg
    เขาพูดประโยคนี้ ในตอนที่เพิ่งจะทะเลาะกับยีผิงมา ด้านงานก็มีปัญหา ต้องเจ็บตัว เห็นตู้เฟยพยายามกางร่มให้เขา แต่ใจข้างใน ใครเล่าจะบังให้ได้! จากประโยคนี้ ทุกคนก็คงจะรู้ว่าใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" คำว่า "ฉิงเซินเซิน" (รักลึกล้ำ) ไม่ใช่ความรักบริสุทธิ์ด้านเดียว และ "หวี่หมงหมง" (ฝนพรำพรำ) ก็ไม่ได้เกี่ยวกับฝนอย่างเดียว ต่างมีความหมายแฝงอยู่ แต่ว่าใน "ฉิงเซินเซิน หวี่หมงหมง" ก็มีฉากฝนหลายฉาก

crown562-11.jpg    การพบกันครั้งแรก ของซูหวนกับยีผิง ก็อยู่กลางฝน มันเป็นวันที่ยีผิงย่ำแย่ที่สุด ซมซานอย่างหาที่เปรียบมิได้ ความซมซานนี้ ทำให้ซูหวนจำฝังใจ ครั้งที่สองที่ซูหวนเจอยีผิง เธอก็กลายเป็นนักร้อง ฉายแววสดในกลางเวที Big Shanghai Dancing Hall แล้ว ความแตกต่างสุดขั้วนี้ นำมาซึ่งความหวั่นไหว ในจิตใจของซูหวน ไม่แปลกที่ต่อมา เขาจะรักเธอจนหัวปักหัวปำ

    การถ่ายฉากฝน เป็นเรื่องลำบากอีกเรื่อง ถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไม อย่างในหนังฝรั่ง ฝนพรำๆ ก็พรำๆจริง หมอกสลัวๆ ก็สลัวๆจริง แต่ทีมงานบอกว่าทำไม่ได้ เพราะว่า พวกเขายืมสายพ่นน้ำ มาจากตำรวจดับเพลิง ดังนั้น น้ำที่ออกมาจึงเป็นฝนหนัก นักแสดงแต่ละคนจะตัวเปียกโชกไปหมด พอถ่ายหลายเทคหน่อย แต่ละคนก็เปียกปอนจนไม่ใช่คน เครื่องสำอางก็ล้างไปหมด เสื้อผ้าก็โชกไปหมด น่าสงสารจริงๆ

    ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ฉันก็จะหลีกเลี่ยงฉากฝน แต่ว่าในละครเรื่องนี้ มันจำเป็น ในนิตยสารฉบับนี้ ฉันนำรูปฉากฝน มาให้ดูหลายรูป ให้ทุกคนเห็นความรู้สึกแบบ "รักลึกล้ำ ฝนหนักหนัก"

crown562-12.jpg

เนื้อหาจาก Taiwan Crown Magazine No.562(12/2000), รูปจาก Chiungyao Website, Zhaowei International Net Family

[ เรื่องย่อ | พรีวิว 1 | พรีวิว 2 | พรีวิว 3 | พรีวิว 4 | พรีวิว 5 | พรีวิว 6 | พรีวิว 7 | พรีวิว 8 | รูปภาพ 1
| Animated Preview | Download | Postcard Book | Memoir Book ]

Copyright © 2000 - 2001 Sawasdee! Vicki Thailand Fanclub (Unofficial)
Website Managed and Constructed by: NuWee